เปิดใจให้กับโลกกว้าง พาความเดียวดายออกไปเที่ยวด้วยตัวเองสักครั้ง

การที่ใครสักคนหนึ่งออกเดินทางไปเที่ยวคนเดียว บางคนอาจจะคิดว่ามันแปลก แต่จริง ๆ แล้วไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย มีอีกหลายคนบนโลกนี้ชื่นชอบการได้เที่ยวคนเดียว และเลือกที่จะออกเดินทาง วางแผนเที่ยวคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง ในบางครั้งบางทีเราก็อยากให้มีใครสักคนไปด้วยกับเราอยู่เหมือนกันนั่นแหล่ะ แต่อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่เวลาไม่ตรงกันกับเพื่อน หรือสถานที่ที่เราอยากจะไปนั้น เพื่อนไม่อยากไป บางคนอาจจะโสดเพิ่งโดนเทมา เอาไงดี อยากจะพาตัวเองออกจากความรู้สึกเหงา เผื่อว่าจะช่วยเยียวยาหัวใจได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่การออกเดินทางทุกครั้งมักจะให้อะไรเราเสมอ

การเที่ยวคนเดียวมันแตกต่างจากการเที่ยวเป็นหมู่คณะอยู่แล้ว อย่างถ้าเราไปกันหลาย ๆ คน ความรู้สึกมันจะเป็นอีกแบบหนึ่ง เราต้องคอยเทคแคร์ แชร์ความรู้สึกและความเห็นร่วมกัน อาจจะทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเองในบางครั้ง ถึงแม้ว่าถ้าเราไปเจออะไรที่สนุก ๆ ด้วยกันกับเพื่อน เสียงหัวเราะมันจะดังกว่าการหัวเราะคนเดียวก็ตาม แต่ลึก ๆ ในใจก็มีก็มุมหนึ่งที่ว่าอยากปลีกวิเวกบ้าง

ถ้าตัดสินใจเที่ยวคนเดียวแล้ว ก็ลุยเลย การเที่ยวคนเดียวมันก็โรแมนติกดีนะ ได้คุยกับตัวเอง ก็โต้แย้งเถียงกันเองในใจนั่นแหล่ะ โดยที่ไม่ต้องมีเสียงคนข้าง ๆ รบกวน เราได้หาประสบการณ์ชีวิตใหม่ให้ตัวเองในการเที่ยวคนเดียว ได้พึ่งพาตัวเองอย่างแท้จริง ได้ตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเอง อาจจะดูทุลักทุเลนิดนึง ถ้าชอบถ่ายรูป ก็เซลฟี่ด้วยตัวเองไปเลย เผลอ ๆ อาจจะมีรูปเยอะกว่าตอนไปเที่ยวกับเพื่อนก็ได้นะ เพราะการไปเที่ยวคนเดียว เหมือนเราได้นิ่งสงบกับตัวเอง มีสมาธิมากขึ้น ก็ทำให้เห็นมุมที่แตกต่างจากคนอื่น แล้วเจอมุมเด็ด ที่สามารถเก็บภาพสวย ๆ ไว้ได้

มันสนุกดีออก ในทุกครั้งที่เราออกเดินทางเที่ยวคนเดียว ในสถานที่แปลกใหม่ มันจะรู้สึกตื่นเต้น ประหม่า เพราะต้องจัดการอะไรเองทุกอย่างตั้งแต่การเริ่มวางแผนการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหารต่าง ๆ เราจะต้องเตรียมของให้พร้อม เรายืมของเพื่อนไม่ได้แล้ว เพราะเราไปคนเดียว การเที่ยวคนเดียวมันกระตือรือร้นทุกครั้งในการออกเดินทาง และความรู้สึกนี้มันต่างกับการเที่ยวพร้อมกันหลาย ๆ คนมาก ความตื่นตัวในการจะไปเที่ยวคนเดียวนี้แหล่ะ ทำให้สมองเริ่มคิดเยอะ แล้วส่งความรู้สึกไปที่หัวใจทำให้ใจเต้นแรง แล้วสะท้อนกลับไปที่สมองอีกครั้ง สมองก็จะสั่งการให้ร่างกายเรารู้สึกสดชื่น พร้อมออกเดินทางโดยไม่รออะไรแล้ว

การที่ชอบเที่ยวคนเดียว ให้อะไรมากกว่าที่คิด มุมมองเราอาจจะเปลี่ยนไป และอาจจะเปลี่ยนนิสัยบางอย่างของเราไปด้วย อย่างเช่น การมีวินัยมากขึ้น ตรงต่อเวลามากขึ้น เพราะไม่มีใครมาคอยเตือน มาคอยปลุก มาคอยบอกให้เราทำอะไร อย่างที่บอกว่าเราได้พึ่งพาตัวเองทั้งนั้น แต่เราจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่โลกนี้สร้างขึ้นมาให้เราออกไปเผชิญหน้าและค้นหามัน

เดินทางท่องเที่ยวตามรอย “ชายร้อยปีผู้ปีนออกจากหน้าต่างแล้วหายตัวไป”

ถ้าใครเคยอ่านหนังสือเรื่อง “100 year old man who climbed out the window and disappeared” หรือ “ชายร้อยปีผู้ปีนออกทางหน้าต่างแล้วหายตัวไป” ของนักเขียนสวีเดน “Jonas Jonasson” คงจำได้ว่าชายร้อยปีสุดซ่าหรือคุณปู่อัลลัน คาร์ลสันนั้นได้เดินทางรอบโลกมาแล้ว บทความนี้จึงอยากเสนอไอเดียการเดินทางตามรอยชายชราอายุ 100 ปี เอาให้โหด มัน ฮา อย่ายอมน้อยหน้าคนแก่นะพวกคุณ

1. Malmkoping ประเทศสวีเดิน เป็นบ้านเกิดและเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของอัลลัน คาร์ลสัน (ถ้าใครจำได้ คุณปู่หนีออกจากบ้านพักคนชราที่มัลม์โคปิง แล้วนั่งรถบัสไปลงสถานีบีริงก์) Malmkoping เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ในมณฑล Sodermanland เมืองเล็กมาก รอบเมืองเป็นทุ่งหญ้าและป่าไม้ ในเมืองมีพิพิธภัณฑ์รถแทรม (Tramway Museum Malmkoping) มีร้านขายของชำร้านขาย ร้านพิซซ่า และร้านเบเกอรี่ด้วยนะ ถ้าอยู่สตอกโฮล์มสามารถนั่งรถไฟต่อรถบัสมามัลม์โคปิ้งใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงเอง

2. สะพานในประเทศสเปน ถ้าย้อนกลับไปสมัยอัลลันเป็นหนุ่ม ในช่วงที่เขาทำงานโรงงานได้เจอกับเพื่อนสเปนที่เป็นนักปฏิวัติฝันเฟื่อง ซึ่งอัลลันเดินทางตามเพื่อนมาสเปนเพื่อระเบิดสะพานในช่วงสงครามโลก เพราะงั้นถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวสเปน เราจะขอแนะนำให้ตามเก็บภาพสะพานทุกที่ที่คุณเจอเลย แล้วตั้งชื่อคอลเลคชั่นนี้ว่า “ภารกิจพิชิตสะพานกับชายร้อยปี” หรือจะตั้งชื่อใหม่ที่เข้ากับคุณก็ได้นะ สะพานสวยๆ ในสเปนก็อย่างเช่น สะพานส่งน้ำสมัยโรมันที่เซโกเวีย, สะพานเล็กสะพานน้อยอันเก่าแก่ที่เมืองบิลบาโอบิลเบา, Sant Bartomeu สะพานข้ามแม่น้ำที่เมือง Catalonia, Alcántara สะพานโรมันในเมือง Extremadura, Vizcaya สะพานขนส่งเชื่อมเมือง Portugalete และ Las Arenas เป็นต้น

3. แมนฮัตตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา พอออกจากสเปนได้เพราะช่วยชีวิตนายทหารระดับสูง (โดยไม่ได้ตั้งใจซักนิด) อัลลันได้ใบผ่านทางเดินทางไปที่อื่น เขาไปอเมริกาและทำงานก่อสร้าง แต่พอได้ยินว่ามีโปรเจคแมนฮัตตันที่ทำเกี่ยวกับระเบิด เขาก็รีบไปสมัครทันที เลยจะมาชวนไปเที่ยวแมนฮัตตัน อีกฝั่งหนึ่งของมหานครนิวยอร์คนั่นเอง ที่นี่มีอะไรน่าสนใจน่ะเหรอ มีสะพานบรู๊คลิน (ที่เราได้เห็นในหนังบ่อยมาก) Central Park (สวนสาธารณะอันกว้างใหญ่ที่เป็นปอดของคนนิวยอร์ค) และยังสามารถไปเที่ยวย่านอื่นๆ ชื่อดังในนิวยอร์คอีกมากมาย

4. สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดิน หลังจากทำภาระกิจสำคัญคือการมีส่วนร่วมคิดค้นระเบิดปรมาณูและได้กลายเป็นเพื่อนกับประธาธิบดีสหรัฐอเมริกาแล้ว อัลลันได้เดินทางกลับมายังสตอกโฮล์ม คนไปเที่ยวสตอกโฮล์มนั้นนิยมเดินเล่น ผ่านย่านเมืองเก่า Old Town ชมท่าเรือ โบสถ์ วัง จะหยุดพักจิบกาแฟซักหน่อยเพราะมีร้านน่ารักริมทางมากมาย ก่อนจะเดินเข้าไปยังกลางเมืองที่เป็นย่านช้อปปิ้ง เป็นเมืองที่สวย ทันสมัย และมีความขลังอยู่ในตัวเอง

5. มอสโคว์ ประเทศรัสเซีย อัลลันมาถึงสตอกโฮล์มไม่ทันข้ามคืนก็มีสายลับรัสเซียพาเขาขึ้นเรือดำน้ำ ไปยังรัสเซียซะแล้ว ไปถึงมอสโคว์ก็ได้พบกับบุคคลสำคัญของโลกอย่างสตาลินอีกต่างหาก เพราะงั้นเลยอยากจะแนะนำที่เที่ยวมอสโคว์อีกซักเมือง ที่นี่มีแลนด์มาร์คที่ต้องไปคือ จัตุรัสแดง, มหาวิหารเซนต์เบซิล, พระราชวังเครมลิน และอีกมากมาย เดินทางในเมืองโดยรถไฟสะดวกนะเออ คนไทยเริ่มไปเที่ยวเยอะเพราะตั๋วเครื่องบินไม่แพงนัก เสน่ห์ของที่นี่คงจะเป็นอากาศที่หนาวมาก การสื่อสารกับคนในท้องถิ่นที่เขาว่ายากกว่าทุกที่ (ซึ่งมันท้าทายดีนะ) ภาพลักษณ์ที่เราเคยได้ยินจนชินชากับคำว่ารัสเซีย ทำให้อยากออกไปสัมผัสด้วยตัวเองว่าที่จริงแล้วมันเป็นยังไง

ขอจบการตามรอยอัลลัน คาร์ลสันเพียงเท่านี้ (ความจริงการเดินทางของเขายังมีอีกเยอะ กว่าจะครบ 100 ปี) หวังว่าบทความนี้จะก่อกลุ่มก้อนบางเบาที่เรียกว่าแรงบันดาลใจให้คุณได้บ้าง ลองสะสมมันให้เป็นกลุ่มก้อนหนักหนาขึ้นเรื่อยๆ สิ แล้วออกไปเดินทางรอบโลกกัน

เครดิตภาพ: http://readery.co/publishers/gammemagie/9786167591735

Your First Solo Trip ทริปแรกกับการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว (ตอนที่ 2)

ในเมื่อหัวใจมันเรียกร้อง ให้เราออกเดินทางไปท่องโลกกว้างคนเดียว อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้ว และเมื่ออยากไปขนาดนี้แล้ว จะรออะไรอีกเล่า !!

ไปสร้างความคุ้นเคยกับความเหงา

แน่นอน…เราไปคนเดียวนะ ถึงจะอยากฉายเดี่ยวหรืออยากลุยคนเดียวแบบอินดี้แค่ไหนก็เถอะ ความเหงามันเกิดขึ้นได้ตลอดนั่นแหล่ะ จากที่เคยมากับเพื่อน ได้พูดคุย สนุกสนาน พอมาคนเดียว อะไร ๆ ก็ต้องทำคนเดียว เดินคนเดียว กินข้าวคนเดียว รูปที่ถ่ายส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปวิว ทิวทัศน์ หรือบรรยากาศรอบ ๆ ส่วนรูปตัวเองน่ะเหรอ…กว่าจะโผล่มาซักรูป เพราะต้องทำใจกล้าไปขอให้คนเขาถ่ายให้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น การอยู่คนเดียวมันก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทุกอย่างนะ พอได้อยู่คนเดียวแบบเหงา ๆ …เวลาแบบนั้น มันกลับทำให้เราได้ใช้ความคิดมากขึ้น ได้สำรวจตัวเอง ได้คิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ได้ลึกซึ้งมากขึ้น บางทีพอกลับจากการเที่ยวคนเดียว เราจะพบว่าช่วงเวลาที่เราจดจำได้ดีที่สุดคือตอนที่เรานั่งเหงา ๆ อยู่คนเดียวก็ได้ และมันก็อาจเป็นช่วงเวลาที่เราชอบและประทับใจที่สุดในการเดินทางครั้งนั้นก็ได้เหมือนกัน…ใครจะไปรู้

ความเป็นผู้ใหญ่ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น

พอได้ทำอะไรคนเดียว สิ่งที่เราต้องทำซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ต้องวางแผนชีวิตและจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง แน่นอน…เราต้องตัดสินใจเองทุกขั้นตอนตั้งแต่เลือกวิธีการเดินทาง ไปพักที่ไหน จองที่พักผ่านเว็บไซต์หรือโทรไปจองกับเจ้าของโรงแรมหรือจะเสี่ยง walk in เผื่อได้ราคาถูก จะซื้อทัวร์ท้องถิ่นหรือจะลุยเองไม่ง้อทัวร์ ถ้าอยากลองเที่ยวเวลากลางคืนด้วยต้องไปแบบไหนถึงจะปลอดภัย ทุกอย่างที่ว่ามาล้วนต้องมีการหาข้อมูล ตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด และวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ทักษะพวกนี้ล้วนเป็นส่วนประกอบที่จะทำให้เรามีความคิดแบบผู้ใหญ่ ทำให้เราเติบโตขึ้น สามารถพึ่งตนเอง และวางแผนจัดการชีวิตได้ดียิ่งขึ้นด้วย

ประสบการณ์แปลกใหม่ที่คนอื่นไม่มี

สิ่งที่เราได้แน่นอนจากการเดินทางก็คือประสบการณ์นี่แหล่ะ เราอาจจะมีเรื่องผิดพลาดจากครั้งแรก แต่เราย่อมนำบทเรียนนั้นไปใช้ในการเดินทางครั้งต่อไป และพึงระลึกเสมอว่าไม่มีอะไร perfect เราย่อมต้องเจอทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี อย่ามัวรู้สึกนอยด์กับความผิดพลาดเล็กน้อยที่เกิดขึ้นระหว่างทาง แต่จงเตรียมใจที่จะยอมรับและให้คิดว่าทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ อยากให้นึกถึงคำขวัญที่เกี่ยวกับจุดหมายในชีวิต จากภาพยนตร์เรื่อง The Secret Life of Walter Mitty เราจะได้ฉุดคิดและเข้าใจความหมายของการเดินทางมากขึ้น

Your First Solo Trip ทริปแรกกับการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว (ตอนที่ 1)

เมื่อวันหนึ่ง เราเกิดความรู้สึกอยากพักผ่อนมาก ๆ อยากไปไหนก็ได้ที่อากาศดี ๆ มีธรรมชาติสวย ๆ มีอาหารอร่อย     มีบรรยากาศแปลกหูแปลกตา จนอดใจไม่ไหวที่จะเอ่ยปากชวนเพื่อนสนิทไปด้วยกัน แต่ช่วงนี้เพื่อน ๆ งานยุ่ง ติดธุระโน่นนี่นั่นมากมาย คำตอบที่ได้จึงหนีไม่พ้น “รอปลายปี ไหม” หรือ “ขอเวลาเคลียร์งานและเก็บตังค์ก่อนดิ” หรือไม่ก็ “แกชวนเอกับบีสิ เห็นมันเคยบอกอยากไปเที่ยวทะเล”

“เราไม่รอใครแล้วนะ เราอยากไป เราก็จะไป”

แต่ปัญหาอย่างเดียว คือ ไม่เคยไปเที่ยวคนเดียวเลย

มันจะอันตรายหรือเปล่า?

ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างนะ?

จะดูแปลกหรือเปล่านะ ใคร ๆ เขาคงไปเที่ยวเป็นกลุ่ม เป็นแก๊งค์ หรือไปเป็นคู่กันทั้งนั้นแน่เลย

ต้องเดินคนเดียวเหงา ๆ แน่เลย

หรือจะไปไปดี

หากมีก้าวแรก ก้าวที่สองสามจะตามมา

ถ้ามัวแต่กังวล และยึดติดกับความคุ้นชินแบบเดิม ๆ เราจะไม่มีโอกาสได้พบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ เลย ดังนั้นลองก้าวข้ามคำถามและความกังวลเหล่านั้น แล้วก้าวออกไปเผชิญโลกพร้อมกับจินตนาการภาพที่ได้เดินทางด้วยความตื่นเต้น เก็บเกี่ยวความรู้สึกเวลาได้เดินผ่านสถานที่ต่าง ๆ และถามตัวเองว่าเรารู้สึกแบบไหนเมื่อได้พบเห็นรอยยิ้มของเพื่อนร่วมทางที่ไม่เคยรู้จักกัน โมเม้นไหนที่เราชอบและอยากใช้เวลาดื่มด่ำกับมันที่สุดตลอดการเดินทาง โมเม้นแบบนั้น จะทำให้เราคิดคำเฉพาะขึ้นมา…… “ติดใจ”…… เราจะติดใจช่วงเวลาแบบนั้น และการเดินทางครั้งต่อไป เราจะไม่พลาดเลยที่จะเก็บโมเม้นแบบนั้น ในทุกที่ที่เราไป

ฝึกตัวเองให้สื่อสารและหาเพื่อนใหม่

สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเดินทางคนเดียว คือ เราจำเป็นต้องพูดคุยกับคนแปลกหน้า ทั้งการถามข้อมูลรายละเอียดตั๋วรถไฟ รถบัส รถสองแถว เรือข้ามฝาก เรือนำเที่ยว ถามถึงที่พัก โรงแรม โฮสเทล ร้านอาหารขึ้นชื่อ ร้านอาหารพื้นเมือง เหล่านี้ล้วนต้องถามจากเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการและจากผู้คนพื้นถิ่นหรือแม้แต่คนเดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน สิ่งที่อยากบอกคือ นี่คือโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้วิธีสื่อสารกับผู้คนรอบข้าง ได้ฝึกการตั้งคำถาม ฝึกการพูดและการเลือกใช้ถ้อยคำ เพราะคนต่างกลุ่มเราอาจต้องใช้วิธีการพูดที่แตกต่างกัน ทักษะแบบนี้จะเกิดขึ้นและติดตัวเราไป ซึ่งเอาไปใช้ได้ทั้งชีวิตส่วนตัวและในชีวิตการทำงาน

นอกจากนี้ ในบางสถานการณ์เราอาจจะต้องเป็นคนให้คำตอบ ต้องมีซักครั้งที่มีคนเดินเข้ามาถามเรา บางอย่างเราให้คำตอบได้ บางอย่างเราไม่รู้คำตอบแต่พอจะรู้ว่าเขาจะหาคำตอบจากที่ไหน แต่บางเรื่องเราเองก็มืดแปดด้านเหมือนกัน เหตุการณ์แบบนี้มักจะนำพาให้เราได้เพื่อนใหม่ (ส่วนใหญ่จะเป็นนักเดินทางหรือ Backpacker ชาวต่างชาติที่มักเดินทางคนเดียว) แค่เรากล้าที่จะเปิดพื้นที่ส่วนตัวให้เพื่อนร่วมทางได้เข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูล เรื่องราว มุมมอง ความคิดเห็น เผลอ ๆ เราจะได้คนชอบเที่ยวสไตล์เดียวกันเพิ่มมาเป็นเพื่อนซี้คนใหม่ก็ได้

เอาเข้าจริง เมื่อเราได้ยินเสียงเรียกร้องของการเดินทาง เราคงไม่ต้องให้ใครมาบอกเหตุผลจูงใจอะไรมากมาย แต่สำหรับบทความนี้ เป็นเพียง Intro สั้น ๆ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณอยากเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ซึ่งในบทความต่อไป เราจะมาแบ่งปันกันต่อใน Your First Solo Trip ทริปแรกกับการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว : ตอนที่ 2” ซึ่งจะพูดคุยกันในเรื่องของการสร้างความคุ้นเคยกับความเหงา ความเป็นผู้ใหญ่ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น และประสบการณ์แปลกใหม่ที่คนอื่นไม่มี  รอติดตามกัน…อีกไม่นาน