การไปเชียงใหม่ครั้งแรกนั้น…มันนานมาแล้ว นานจนจำความรู้สึกครั้งนั้นไม่ได้ เป็นการไปทัศนศึกษาโดยจุดหมายปลายทางที่ทุกคนตั้งตารอที่จะไปให้ถึงคือ งานพืชสวนโลก เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้แปลกตาจากทุกมุมโลก มีจุดจำลองศิลปะวัฒนธรรมที่เราไม่เคยเห็น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินขวักไขว่วุ่นวายเต็มไปหมด ใครก็ว่าเชียงใหม่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมีมนต์ขลังและน่าประทับใจกว่าทุกวันนี้หลายเท่านัก แต่อาจเป็นเพราะตอนนั้นเรายังเด็กเลยไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเท่าไหร่นัก กระแสการเสพความชิล ความชิคที่เป็นแฟชั่นของหนุ่มสาวสมัยนี้น่ะเหรอ ลืมไปเลย ตอนนั้นเราไม่อินกับอะไรแบบนี้ซักนิด
เวลาผ่านมา เราทำความรู้จักกับเชียงใหม่ในอีกมุมหนึ่ง เพราะสื่อและโซเชียลเน็ตเวิร์กทำให้เราได้ข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น เรากลับไปฟื้นความทรงจำสมัยเรียนว่าเชียงใหม่คือ “อาณาจักรล้านนา” ที่ปกครองโดยราชวงศ์มังราย และหากใครยังจำเรื่อง ผู้ชนะสิบทิศในบทเรียนภาษาไทยสมัยมัธยมล่ะก็ จะบอกว่าพระเอกเรื่องนี้คือพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่าที่ยกทัพมายึดเมืองเชียงใหม่โดยใช้เวลาเพียง 3 วัน นอกจากเรื่องประวัติศาสตร์ เชียงใหม่ยังถูกกล่าวถึงว่าเป็นที่ตั้งของภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย เป็นจังหวัดที่มีโครงการหลวงกระจายอยู่เต็มไปหมด ถูกยกขึ้นมาเป็นสถานที่อ้างอิงในนิยายและละครโทรทัศน์เรื่องดังหลายเรื่อง มีร้านอาหารและร้านกาแฟชิล ๆ ชิค ๆ ซ่อนตัวอยู่ในมุมทั่วเมือง ฉากสุดโรแมนติกชวนฝันเมื่ออากาศหนาวเย็นกำลังดีและท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยแสงไฟจากโคมที่หนุ่มสาวได้ปล่อยขึ้นสู่ฟ้าในคืนวันลอยกระทง
เมื่อเราได้มาเชียงใหม่เป็นครั้งที่สอง…มันกลับให้ความรู้สึกเหมือน นี่คือการมาเชียงใหม่ครั้งแรก (เฮ้ย! นี่มัน My First Time Again!!!) ถึงแม้จะมีความเป็นเมืองท่องเที่ยวเพราะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ทั้งยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชีย (โดยเฉพาะจีน เกาหลี) และแม้จะรถติดเหมือนกรุงเทพฯ แต่มันมีอะไรบางอย่างที่ให้ความรู้สึกแตกต่าง เหมาะกับการมาใช้เวลาขลุกอยู่ที่นี่ซักเดือนละสองสามวัน มีสถานที่ให้ไปสิงสถิตเยอะแยะเลย ทั้งสายบุญ สายชมเมือง สายท่องราตรี สายธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพร และสายสโลว์ไลฟ์ที่เป็นแฟชั่นมาแรงในหมู่หนุ่มสาวอินดี้ทั้งหลาย
ในเมื่อเชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะขนาดนี้ มาครั้งเดียวไม่พอหรอก เราวางแผนมาเชียงใหม่ในเวลาถัดมาไม่นานนัก เราใช้เวลาครึ่งวันเดินชมวัดและพิพิธภัณฑ์ในเมือง จากนั้นก็ไปบุกร้านกาแฟ ดื่มดำรสชาติกาแฟ เค้ก และขนมหวานในร้านดังที่ใครต่างก็แนะนำ ตกค่ำเราเดินถนนคนเดินช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่นและของกินพื้นเมือง และเนื่องจากเราชื่นชอบช่วงเวลาที่ได้ขลุกตัวอยู่ที่ไหนซักที่ เราจึงเลือกร้านกาแฟแนวล้านนาที่มีทั้งโซนห้องแอร์และโซน open air สั่งกาแฟและอ่านหนังสือเล่มโปรดจนถึงเย็น
ครั้งต่อมาเราเลือกจะเที่ยวแนวธรรมชาติ เลยจองที่พักโครงการหลวงดอยอินทนนท์ไป และเลือกใช้บริการรถแดงและ รถเหลืองของเมืองเชียงใหม่ พอถึงโครงการหลวงก็ได้เดินชมดอกไม้ใบหญ้าทั้งวัน ที่พักเงียบสงบ บรรกาศดีมาก พอตื่นเช้าก็ได้กินอาหารเช้าที่ทำจากผลผลิตโครงการหลวงที่สด ใหม่ อร่อยสุด ๆ ติดใจเที่ยวสายธรรมชาติจนต้องจัดทริปเชียงใหม่อีกหลายครั้ง
เราเดินทางไปแต่ละครั้ง แต่ละที่ ไม่เหมือนกันเลย ตอนนี้เชียงใหม่กลายเป็นจังหวัดที่เราไปบ่อยที่สุดรองจากจังหวัดบ้านเกิดตัวเอง และก็ยังมีที่ที่ยังไม่ได้ไปและอยากไปอีกเยอะเลยล่ะ ทั้งอ่างขาง สะเมิง เชียงดาว และยังคิดว่าถ้ามีเวลาว่าง ๆ จะหาวันไปเดินสำรวจแถววัดอุโมงค์ และตระเวนกินอาหารเมืองร้านอร่อยให้ครบทุกร้านเลย